ประกันรถยนต์ เลือกยังไง? ให้เหมาะกับเราดี … อย่าเข้าใจผิดว่าต้องซื้อเบี้ยประกันแพง ๆ ถึงจะดี ถึงจะได้รับความคุ้มครองที่ครอบคลุม แต่ในความเป็นจริงแล้วคุณสามารถเลือกให้เหมาะกับทั้งไลฟ์สไตล์การใช้รถได้ แถมยังไม่กระทบกับเงินในกระเป๋าให้เกินความจำเป็นอีกด้วย
ใช้รถแบบไหน หา ประกันรถยนต์ แบบนั้น
อย่างที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าบริษัทประกันภัยมีมากมาย รวมถึงตัวแทนขายที่มีให้บริการทั่วประเทศ แต่คำถามก็คือ คนใช้รถอย่างเรา ๆ จะเลือกยังไงให้เข้ากับไลฟ์สไตล์หรืออ้างอิงจากการใช้รถในชีวิตประจำวันของเราได้แบบเหมาะสมและคุ้มค่าที่สุด
- ขับรถใช้ความเร็ว เดินทางไกลบ่อย ๆ ไม่ว่าจะออกต่างจังหวัด หรือใช้รถแบบสมบุกสมบันเหลือเกิน และที่สำคัญโดยเฉพาะมือใหม่หัดขับทุกท่าน ใครที่มีพฤติกรรมการใช้รถเหล่านี้ บอกเลยว่าต้อง ประกันชั้น 1 เท่านั้น!! เพื่อรองรับความเสี่ยงให้คุ้มครองแบบรอบด้านไปเลย แต่ก็ต้องแลกกับการจ่ายเบี้ยประกันราคาสูงหน่อย แต่คุ้มค่ากับการคุ้มครองที่ได้รับหากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดได้ดีเลยล่ะ
- ขับรถชำนาญแล้ว มีความมั่นใจในระดับนึงว่าเฉี่ยวชนน้อย และค่อนข้างคำนึงถึงการใช้ความเร็วในการขับรถอย่างระแวดระวังเป็นอันดับหนึ่ง แต่ยังรู้สึกว่ามีเปอร์เซ็นต์ความเสี่ยงว่ารถอาจจะถูกโจรกรรมได้ง่าย แต่อยากได้เบี้ยประกันที่เบาลงมาหน่อย ก็สามารถเลือกประกันชั้น 2 ที่ยังสามารถรองรับความเสี่ยงในด้านอื่น ๆ ได้อยู่
- ขับรถชำนาญ และหัวก็ร้อนง่ายเช่นกัน อันนี้ต้องบอกไว้ก่อนเลยว่ามีอัตราเสี่ยงที่จะทำให้คุณเกิดอุบัติเหตุหรือเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดได้ ถึงยังไงถ้าลดอาการหัวร้อนลำบาก การเลือกประกันรถยนต์ก็เป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับคุณแน่นอน และเพื่อความปลอดภัยควรเลือกประกันชั้น 2+ หรือประกันชั้น 1 เพื่อให้ได้รับความคุ้มครองที่ครบถ้วนและครอบคลุม
- เหมือนซื้อมาจอดเฉย ๆ และมีความเสี่ยงน้อยต่อการถูกขโมยรถ หรือรถที่มีอายุเกิน 7 ปีขึ้นไป บางคนอาจคิดว่าในเมื่อไม่ได้ใช้รถก็ไม่จำเป็นจะต้องมีประกันติดรถก็ได้นี่ อาจจะเป็นความเข้าใจที่ผิด เพราะเราไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่าวันดีคืนดีที่อยากจะใช้รถขึ้นมาและแจ็กพอตเจอเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้น อย่างน้อยถ้าเลือกซื้อประกันชั้น 3 ติดไว้ เพื่อได้รับความคุ้มครองที่เราไม่ต้องแบกภาระหนักและรับความเสี่ยงไว้คนเดียวเต็ม ๆ
- นาน ๆ จะขับสักที แต่ขับแต่ละทีก็กังวลว่าอาจจะเฉี่ยวชนเพราะไม่ค่อยได้ขับรถ บวกกับเป็นคนหัวร้อนง่ายด้วย ประกันชั้น 3+ ก็ช่วยได้ อย่างน้อยก็ยังช่วยคุ้มครองค่าซ่อมหรือค่าเสียหายให้คู่กรณีได้ในระดับหนึ่ง จะได้ไม่ต้องควักเงินในประเป๋าออกเอง
ไลฟ์สไตล์การขับขี่คือเรื่องหลัก แต่ก็ยังมีปัจจัยอื่นในการเลือก ประกันรถยนต์ ด้วย
นอกจากพฤติกรรมหรือไลฟ์สไตล์การขับขี่ ก็ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่ผู้ใช้รถควรนึกถึงและประเมินตัวเองด้วยสำหรับการเลือกประกันรถยนต์ให้เหมาะกับตัวเอง
- ความพร้อมและกำลังจ่ายค่าเบี้ยประกันในแต่ละปี แน่นอนว่าเมื่อได้ประเมินตนเองถึงความเสี่ยงจากไลฟ์สไตล์การใช้รถแล้ว ย่อมส่งผลต่อค่าเบี้ยประกันด้วยเช่นกัน เพราะฉะนั้นควรคำนวณค่าใช้จ่ายของเราให้ดี รวมถึงศึกษากรมธรรม์ให้ดีก่อนทำประกัน แต่ถ้าให้ดีที่สุดการปรึกษาโบรกเกอร์ประกันภัย ซึ่งจะเป็นผู้ให้คำแนะนำที่เข้าใจได้ง่ายและสามารถเปรียบเทียบประกันที่เหมาะกับเราได้ดีเลย ก็เป็นวิธีที่ทำให้คุณสามารถเซฟค่าใช้จ่ายได้มาก รวมถึงได้แผนความคุ้มครองที่ต้องการอย่างคุ้มค่า
- ความเสี่ยงจากการมีพฤติกรรมดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ แน่นอนว่าอัตราการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนเกิดจากผู้ขับขี่ดื่มแอลกฮอล์ หากคุณมีพฤติกรรมการดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำและต้องขับรถ จำเป็นต้องศึกษาความคุ้มครองของกรมธรรม์อย่างละเอียด เนื่องจากความคุ้มครองจะไม่เกิดขึ้นทุกกรณีหากเกิดอุบัติเหตุด้วยสาเหตุผู้ขับขี่เข้าข่ายเมาแล้วขับแม้คุณจะจ่ายค่าเบี้ยประกันแพงแค่ไหนก็ตาม โดยอ้างอิงจากประกาศ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ได้กำหนดความคุ้มครองในกรณีนี้ไว้ว่า “ผู้ขับขี่เมาสุราที่มีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดเกินกว่า 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ หรือเกินกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ ของผู้ขับขี่ที่มีอายุน้อยกว่า 20 ปี หรือผู้ที่ถือใบขับขี่ชั่วคราว รวมถึงผู้ที่ถูกพักใบอนุญาตและถูกเพิกถอนอยู่” จะไม่ได้รับความคุ้มครองจากประกันภัยรถยนต์ เพราะฉะนั้นทางที่ดีที่สุด หากรู้ตัวว่าต้องมีปาร์ตี้ สังสรรค์และต้องดื่มแอลกอฮอล์ด้วย ควรหลีกเลี่ยงการใช้รถใช้ถนน เพื่อความปลอดภัยของตัวคุณเองและคนรอบข้าง รวมถึงรถยนต์ที่อาจจะต้องมานั่งปวดหัวทีหลังกับการที่จะต้องมารับผิดชอบค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด
- รถอายุเกิน 7 ปี ส่วนใหญ่จะไม่สามารถต่อประกันชั้น 1 ได้ ยกเว้นแต่รถที่ได้รับความนิยมเป็นจำนวนมาก และมีอะไหล่ที่สามารถหาได้ง่ายอยู่ หรืออาจเลือกทำประกันชั้น 3 และซื้อประกันอะไหล่รถยนต์ไว้อีกแผนเพื่อรับความคุ้มครองต่อเนื่องจาก Warranty ที่มีอยู่ และไม่ทับซ้อนกับประกันรถยนต์ที่ได้ทำไว้ด้วย
- รถมีอายุเกิน 10 ปี และอยู่ในพื้นที่เสี่ยงต่อภัยพิบัติ ก็ควรเลือกทำประกันชั้น 2 หรือ 2+ หากวันนึงรถของเราเจอน้ำท่วมหรือไฟไหม้ เราก็ยังได้รับความคุ้มครองจากภัยธรรมชาติอยู่ จะได้ไม่ปวดหัวกับค่าซ่อมที่ไม่แน่ใจว่าจะซ่อมกับซื้อใหม่แบบไหนถูกกว่ากัน
ซึ่งทั้งหมดนี้ก็เป็นเทคนิคหลัก ๆ ในการเลือกประกันให้เหมาะกับการใช้รถของเรา เพื่อรองรับความเสี่ยงและได้รับความคุ้มครองในวันที่เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันขึ้น แต่ยังไงก็แล้วแต่ผู้ใช้รถทุกคนก็ยังคงต้องคำนึงถึงความไม่ประมาทในการขับขี่ เพื่อให้ผู้ร่วมทางและตัวคุณเองปลอดภัยจากการใช้รถใช้ถนน
หรือถ้าหากคุณกำลังสนใจทำประกันรถยนต์หรือมีแพลนเปลี่ยนประกันรถยนต์ใหม่ A.R.T Insurance Broker พร้อมให้คำปรึกษาและเปรียบเทียบประกันรถยนต์ทุกประเภทเพื่อให้ได้แผนและความคุ้มครองให้เหมาะกับการใช้รถของคุณได้ตอบโจทย์ที่สุด
ปรึกษาด้านประกันภัย ค้นหา – เปรียบเทียบเพื่อให้ได้ประกันที่ใช่ อุ่นใจชัวร์มากที่สุดผ่าน Call Center : 02-106-5555 และช่องทางการติดต่อของ A.R.T Insurance Broker ทุกช่องทาง